คู่มือ

ฝึกสมอง ออกกำลังสมอง พัฒนาความจำและทักษะการคิด

การฝึกสมองช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง เหมาะสำหรับทุกวัยที่ต้องการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง

เผยแพร่เมื่อ อัปเดตล่าสุดเมื่อ

บทนำภาพ

หุ่นจำลองสมองมนุษย์
ภาพขาวดำของสมอง
แสดงภาพสมองมนุษย์จากหลายมุมมอง
ภาพระยะใกล้ของหุ่นจำลองสมองพลาสติก
Photo by Lisa Yount on Unsplash
สมองสีขาวบนพื้นหลังสีดำ
Photo by Shawn Day on Unsplash
ภาพระยะใกล้ของสมองมนุษย์บนพื้นหลังสีขาว
สมองสีแดงวางอยู่บนถาดโลหะ
ภาพสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ของสมองมนุษย์
หยดน้ำที่มีสมองมนุษย์ห้อยลงมา
สมองสีน้ำตาล
ดอกไม้หลากสีบนพื้นหลังสีดำ
ภาพวาดสมอง
แมงกะพรุนสีฟ้าในน้ำสีฟ้า
แผนภาพ
คนกำลังว่ายน้ำล้อมรอบด้วยฝูงปลา
คนนั่งบนพื้นหน้ากำแพงสีขาว
สมองมนุษย์แสดงด้วยเส้นเรืองแสงสีน้ำเงิน
แพทย์สองคนกำลังตรวจสอบผลสแกนสมองด้วยกัน
ภาพระยะใกล้ของสมองมนุษย์บนพื้นหลังสีดำ
Photo by Shawn Day on Unsplash

ความคาดหวัง

ตอนแรกที่เพื่อนแนะนำให้ลองฝึกสมอง ผมก็สงสัยว่า สงสัยว่าการฝึกสมองจะได้ผลจริงหรือไม่ แต่ด้วยความที่ช่วงนี้ลืมโน่นลืมนี่บ่อยๆ ทั้งลืมกุญแจรถ ลืมนัดสำคัญๆ เลยตัดสินใจลองดูสักตั้ง เริ่มจากฝึกสมองวันละนิดๆ หน่อยๆ ตื่นเต้นเหมือนได้ของเล่นใหม่เลยครับ

ผมตั้งเป้าว่าจะฝึกวันละ 15 นาที ตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน ตื่นมาพร้อมความมุ่งมั่น เหมือนได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยพลังบวก

การดื่มด่ำ

หลังจากฝึกไปได้สักระยะ เริ่มสังเกตว่าจำหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนร่วมงานได้แม่นขึ้น แถมเวลาเล่นเกมจับคู่รูปภาพก็ทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเวลา 15 นาทีนั้นกลายเป็นช่วงเวลาที่ผมรอคอยที่สุดของวันแล้วล่ะ

เมื่อเวลาผ่านไป ผมลองเพิ่มความท้าทายด้วยเกมที่ต้องใช้ความเร็วในการตัดสินใจ แรกๆ ก็ทำพลาดบ่อย แต่พอฝึกไปเรื่อยๆ กลับรู้สึกว่าสมองตอบสนองเร็วขึ้น จำรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น แม้แต่เวลาอ่านหนังสือก็จดจ่อได้นานขึ้น

การไตร่ตรอง

หลังจากฝึกสมองเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ผมรู้สึกว่าตัวเองมีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น ความจำดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่คนใกล้ตัวยังสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง

ที่สำคัญที่สุดคือรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น การฝึกสมองกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ เหมือนการแปรงฟันหรืออาบน้ำทุกเช้า ผมดีใจที่ตัดสินใจเริ่มต้นฝึกสมอง และจะฝึกต่อไปเรื่อยๆ

การฝึกสมองช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่และเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้ความจำดีขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สมองประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้น ตัดสินใจได้คล่องแคล่วขึ้น
การออกกำลังสมองอาจช่วยชะลอการเสื่อมถอยของสมอง
การฝึกสมองช่วยให้สามารถจดจ่อกับงานได้นานขึ้น ลดอาการฟุ้งซ่าน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
การแก้โจทย์และเกมฝึกสมองช่วยพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การฝึกสมองช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองทั้งสองซีก ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่กว้างไกลขึ้น
เมื่อเห็นพัฒนาการของตัวเอง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในความสามารถและศักยภาพของตนเอง
  1. เลือกกิจกรรมฝึกสมองที่เหมาะกับความสนใจของคุณ
  2. กำหนดเวลาในแต่ละวันสำหรับการฝึก เริ่มจากวันละ 10-15 นาที และค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ
  3. เริ่มจากระดับความยากที่เหมาะสม ไม่ควรยากหรือง่ายเกินไป เพื่อให้รู้สึกท้าทายแต่ไม่ท้อแท้
  4. จดบันทึกความก้าวหน้าและท้าทายตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
  5. ผสมผสานการฝึกสมองเข้ากับกิจกรรมประจำวัน เช่น จำรายการของที่ต้องซื้อโดยไม่ต้องจด
  6. หาเพื่อนหรือกลุ่มที่สนใจฝึกสมองเหมือนกัน เพื่อแลกเปลี่ยนเทคนิคและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
  7. พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากสมองจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
  • สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
  • เวลาสำหรับฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
  • พื้นที่เงียบๆ ที่ไม่มีสิ่งรบกวน
  • สมุดจดและปากกา (สำหรับจดบันทึกความก้าวหน้า)
  • ความตั้งใจและความสม่ำเสมอ

การฝึกสมองมีความปลอดภัยสูงและเหมาะกับทุกวัย ควรฝึกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ควรฝืนตัวเองมากเกินไป หากมีอาการปวดศีรษะหรือเวียนศีรษะระหว่างฝึก ควรหยุดพักและปรึกษาแพทย์

การเปลี่ยนแปลงจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอและเทคนิคที่ใช้ แต่ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอและเทคนิคที่ใช้
แน่นอนครับ การฝึกสมองมีประโยชน์ในทุกวัย การวิจัยพบว่าสมองของเราสามารถสร้างเซลล์ประสาทใหม่ได้ตลอดชีวิต สามารถเริ่มต้นได้ทุกช่วงวัย
ไม่จำเป็นเลยครับ มีทั้งแอปพลิเคชันฟรีและแบบมีค่าใช้จ่าย แนะนำให้เริ่มจากแอปพลิเคชันฟรีก่อน เช่น เกมฝึกสมองที่มีอยู่ในมือถือทั่วไป หรือจะฝึกด้วยวิธีง่ายๆ เช่น อ่านหนังสือ เล่นหมากรุก ก็ได้ผลดีเช่นกัน
ใช่ครับ การศึกษาวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าการฝึกสมองเป็นประจำช่วยชะลอการเสื่อมถอยของความจำและลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้อย่างมีนัยสำคัญ
ช่วงเช้าหลังตื่นนอนเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะสมองยังสดชื่นและพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ แต่จริงๆ แล้วสามารถฝึกเวลาใดก็ได้ที่สะดวกและทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ
โดยทั่วไปไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง แต่ไม่ควรฝึกจนเครียดหรือเหนื่อยเกินไป ควรพักผ่อนให้เพียงพอและฟังเสียงร่างกายของตัวเอง
ได้ครับ มีเกมฝึกสมองที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ความจำ และความคิดสร้างสรรค์ ควรเลือกเกมที่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก
ควรฝึกอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดี ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความถี่ครับ
เช่น เกมฝึกความจำ เกมคำศัพท์ เกมตัวเลข หรือเกมกระดานต่างๆ
แน่นอนครับ ช่วยเพิ่มสมาธิ ความจำ และทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ความจำและความเข้าใจ
แบ่งเวลาวันละ 5-10 นาทีก็ได้ผล เน้นที่ความสม่ำเสมอ อาจใช้เวลาว่างระหว่างวันในการฝึกสมองแทนการเล่นโทรศัพท์
มีหลายอย่างครับ เช่น ปลาทะเลน้ำลึก ถั่วต่างๆ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว ดาร์กช็อกโกแลต และควรดื่มน้ำให้เพียงพอด้วย

การฝึกสมองเป็นกิจกรรมที่สามารถเริ่มต้นได้ทุกที่ทุกเวลา